สื่อการสอน "สวนสัตว์หรรษา"

        สวัสดีค่า วันนี้มีงานสื่อการเรียนการสอนที่ทำเองกับมือมาฝากเพื่อนๆ ทุกๆคนเลยนะคะ โดยสื่อนี้มีชื่อว่า “สวนสัตว์หรรษา” เย้ๆ!! ชื่อน่ารักใช่ไหมละ เรามาดูภาพกันดีกว่า ว่าจะน่ารักเหมือนชื่อหรือเปล่า

       น่ารักมากๆเลยใช่ไหมคะ สำหรับสื่อการสอนนี้ เหมาะสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1-3 สื่อการสอนนี้จะสอนคำศัพท์ภาษาอังกฤษและสามารถนำไปประยุกต์กับวิชาอื่นๆได้อีกด้วย เช่น สังคมศึกษา วิทยาศาสตร์ ศิลปะ เป็นต้น คำศัพท์ในสื่อการสอนนี้เกี่ยวกับสัตว์ในแถบที่อยู่ต่างๆ ได้แก่

1. หมวดสัตว์ที่อาศัยอยู่ในทุ่งหญ้าราบสูง (Steppe) Horse ม้า Cow วัว Buffalo ควาย

2. หมวดสัตว์ที่อาศัยอยู่ในขั้วโลก (Polar) Polar Bear หมีขั้วโลก Penguin นกเพนกวิน Seal แมวน้ำ

3. หมวดสัตว์ที่อาศัยอยู่ในป่า (Forest) Tiger เสือ Elephant ช้าง Monkey ลิง Lion สิงโต

4. หมวดสัตว์ที่อาศัยอยู่ในทุ่งหญ้าสวันนา (Savanna) Giraffe ยีราฟ Koala หมีโคอาล่า Zebra ม้าลาย

5. หมวดสัตว์ที่อาศัยอยู่ในทะเลทราย (Desert) Camel อูฐ Tree-lizard กิ้งก่าทะเลทราย

              

         นอกจากนี้เรายังมีใบความรู้ที่สอนคำศัพท์ คำอ่านละความหมาย อีกทั้งมีเฉลยให้น้องๆด้วยคะ

         ขั้นตอนการทำสื่อการสอนชิ้นนี้ใช้เวลาประมาณ 2 อาทิตย์ด้วยกัน ขั้นแรกเราต้องมาวาดรูปสัตว์กับรูปสถานที่กันก่อน จากนั้นก็ติดตัวสัตว์บนกระดาษ Green read แล้วก็ติดทับลงบนโฟมยางอีกทีแล้วเคลือบแผ่นพลาสติกใส จากนั้นนำกระดานมาติดกัน 2 แผ่นเพื่อความคงทนแล้วนำรูปสถานที่และคำศัพท์มาติดพร้อมตกแต่งให้สวยงาม จากนั้นเคลือบแผ่นพลาสติกใสพร้อมทั้งติดตีนตุ๊กแก ก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย

      ถึงแม้ว่าสื่อการเรียนการสอนชิ้นนี้จะใช้เวลาในการทำค่อนข้างนานและขั้นตอนการทำนั้นค่อนข้างยาก แต่กลุ่มของข้าพเจ้าหวังเป็นอย่างยิ่งว่า สือการเรียนการสอนชิ้นนี้จะมีประโยชน์กับน้องๆไม่มากก็น้อย และเป็นงานที่ข้าพเจ้าภูมิใจกับมันมากที่สุดเลยคะ :)

คุณครูตัวอย่างกับสื่อเทคโนโลยี

       สวัสดีคะ เพื่อนๆพี่ๆน้องๆทุกคน วันนี้ขอเล่าเรื่องการไปเยี่ยมเยียนโรงเรียนแห่งหนึ่่งในกรุงเทพมหานคร กับคุณครูตัวอย่างที่น่ายกย่อง ท่านใช้สื่อเทคโนโลยีต่างๆ ในการเรียนการสอนด้วยคะ

    

         คุณครูท่านนั้นก็คือ คุณครู "ศิริพร วงศ์ภักดี" ของ "โรงเรียนศรีอยุธยา ในพระอุปถัมภ์ สมเด็จพระเจ้าภคนีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี" ชื่อโรงเรียนยาวมากๆเลย เค้าจึงเรียกกันสั้นๆว่า "โรงเรียนศรีอยุธยาในพระอุปถัมภ์" หรือ "โรงเรียนศรีอยุธยา" นั่นเองคะ สาเหตุที่เลือกโรงเรียนนี้เพราะรุ่นน้องของเพื่อนในกลุ่มเค้าแนะนำมา บอกว่า คุณครูท่านนี้แหละใช้สื่อเทคโนโลยีในการเรียนการสอนและยังเป็นคุณครูตัวอย่างอีกด้วย

คุณครู ศิริพร วงศ์ภักดี

           การไปเยี่ยมโรงเรียนและสังเกตสื่่อการสอนครั้งนี้ทำให้ข้าพเจ้าได้เรียนรู้อะไรหลายๆอย่างมากมายเลยค่ะ มีทั้งที่ประทับใจและไม่ประทับใจเลย

           ก่อนอื่นเลยตอนที่กลุ่มของข้าพเจ้าโทรไปนัดกับคุณครูนั้น การติดต่อกับคุณครูนั้นค่อนข้างยากเนื่องจากในหน้าเว็บโรงเรียนไม่มี เลยต้องค้นๆในเว็บกูเกิ้ลเอา เมื่อโทรไป ปรากฏว่าเป็นระบบตอบอัตโนมัติ ต้องต่อเบอร์โทรศัพท์ภายในถึง 3 ครั้งด้วยกัน แต่แค่นี้เองไม่เป็นอุปสรรคค่ะ ในที่สุดก็สามารถนัดกับคุณครูไว้ได้เรียบร้อย และกลุ่มของข้าพเจ้าได้เดินทางไปโรงเรียนศรีอุธยาถึง 2 ครั้งเลยคะ 

         ครั้งแรกที่ไปเยี่ยมโรงเรียนนั้น เมื่อกลุ่มของข้าพเจ้าไปถึงโรงเรียนแล้ว ก็ไปเจอกับบอร์ดคุณครูภาคภาษาต่างประเทศ ปรากฏว่า คุณครูศิริพรของเรานั้นเป็น "หัวหน้าหมวด" !!! เลยเกิดอาการกังวลเล็กน้อยว่าคุณครูนั้นจะดุไหม แต่เมื่อได้คุยกับอาจารย์แล้ว อาจารย์เป็นกันเองมากๆเลยคะ แถมยังชวนให้กลุ่มของข้าพเจ้ามาฝึกสอนที่โรงเรียนศรีอยุธยาอีกด้วย

          คุณครูศิริพร พาเราไปสังเกตการสอนของอาจารย์ต่างชาติ ซึ่งมีหลายคนทีเดียวค่ะ อาจารย์ชาวต่างชาตินั้นนอกจากสอนนักเรียนแล้ว หลังเลิกเรียนยังสอนให้กับคุณครูหมวดอื่นๆ อีกด้วย เช่น หมวดภาษาไทย วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ เป็นต้น กลุ่มของข้าพเจ้าได้มีโอกาสสัมภาษณ์อาจารย์ชางต่างชาติคนหนึ่งเกี่ยวกับการใช้สื่อเทคโนโลยีในการเรียนการสอน เค้าชื่อ "Jeremy" เค้าบอกว่า สื่อเทคโนโลยีนั้นก็มีส่วนในการช่วยเสริมสร้างการเรียนรู้ของนักเรียน แต่ตัวคุณครูเองนั้นสำคัญมากกว่าในการเรียนการสอนแต่ละครั้ง ต้องมีท่าทางประกอบเพื่อให้นักเรียนสนใจด้วย 

          ครั้งที่สองที่กลุ่มของข้าพเจ้าได้เข้าไปสังเกตการเรียนการสอนของคุณครูศิริพร คุณครูสอนคำศัพท์ต่างๆจากเนื้อเพลง 2 เพลงด้วยกัน ก็คือ 'Heel The World' และ 'Que Sera Sera' มีการใช้สื่อเทคโนโลยี ได้แก่ โปรเจคเตอร์ พาวเวอร์พ้อยท์ คลิปเสียง เป็นต้น ทำให้นักเรียนส่วนใหญ่นั้นสนใจและตั้งใจเรียนมากขึ้นค่ะ

          การที่กลุ่มของข้าพเจ้านั้นได้ไปเยี่ยมชมการเรียนการสอนของคุณครูศิริพร วงศ์ภักดี ที่โรงเรียนศรีอยุธยานั้น ทำให้ข้าพเจ้าได้ความรู้ต่างๆมากมาย ไม่ว่าเป็นการใช้สื่อเทคโนโลยีในการเรียนการสอน การควบคุมชั้นเรียน ตลอดจนการเป็นคุณครูที่น่ายกย่องและเป็นแบบอย่างที่ดีของนักเรียน ข้าพเจ้าจะนำความรู้ต่างๆเหล่านี้ไปปรับใช้ในการเรียนการสอนต่อไปในอนาคตเมื่อข้าพเจ้าได้ฝึกสอนหรือเป็นคุณครูต่อไปในภายภาคหน้า สุดท้ายนี้ข้าพเจ้าขอให้อาจารย์ศิริพร วงศ์ภักดี มีแต่ความสุขความเจริญ และเป็นแบบอย่างที่ดีต่อไปคะ  

           การใช้สื่่อเทคโนโลยีนั้นมีความจำเป็นมากในสังคมปัจจุบัน สื่อเทคโลโนยีนั้นอาจก่อให้เกิดทั้งประโยชน์และโทษ ดังนั้นการที่จะนำสื่อเทคโนโลยีมาใช้ในการเรียนการสอนทั้งการเรียนในห้องเรียน หรือแม้แต่การเรียนด้วยตัวเองนั้น ต้องเลือกสรรสิ่งที่นำมาใช้ให้เกิดประโยชน์ ให้เกิดการเรียนรู้ต่อไปในอนาคต เพื่อก่อให้เกิดการเรียนรู้ต่างๆมากขึ่้น คุณภาพชีวิตดีขึ้น นอกจากนี้การใช้สื่อเทคโลโนยีนั้น ไม่ใช่ว่าคุณครูเท่านั้นที่สามารถนำมาใช้ได้ แต่หมายถึงพวกเราทุกคนสามารถนำสื่อเหล่านี้มาใช้ให้เกิดประโยชน์ในชีวิตประจำวันได้คะ 

ฝากรูปเล็กๆน้อยๆค่ะ 

                                     

            ปัจจุบันนี้จะเห็นได้ว่า "สื่อเทคโนโลยี" เข้ามามีบทบาทในการดำเนินชีวิตของเราอย่างมาก รวมไปถึงการเรียนการสอนด้วยเช่นกัน 

         สื่อเทคโนโลยี หมายถึง สื่อการเรียนรู้ที่ผลิตขึ้นใช้ควบคู่กับเครื่องมือโสตทัศนวัสดุ หรือเครื่องมือที่เป็น เทคโนโลยีใหม่ ๆ เช่น แถบบันทึกภาพพร้อมเสียง (วิดีทัศน์) แถบบันทึกเสียง ภาพนิ่ง สื่อคอมพิวเตอร์ช่วยสอน นอกจากนี้สื่อเทคโนโลยี ยังหมายรวมถึงกระบวนการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการนำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้ในกระบวนการเรียนรู้ เช่น การใช้อินเทอร์เน็ตเพื่อการเรียนรู้ การศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม เป็นต้น

           สื่อเทคโนโลยีที่ใช้ในการเรียนการสอนนั้น ปัจจุบันยิ่งให้ความสำคัญมากขึ้นเรื่อยๆ สังเกตได้จาก โรงเรียนแต่ละโรงเรียนนิยมการใช้จอโปรเจคเตอร์ และเมื่อไม่นานมานี้รัฐบาลได้มีนโยบายซื้อแท๊บเล็ตให้นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 และมัธยมศึกษาปีที่ 1 ด้วย 

          สื่อเทคโนโลยีนั้นมีประโยชน์อย่างมากในการเรียนการสอน หากเราใช้อย่างถูกวิธี ไม่ใช่ว่ามีประโยชน์เพียงแต่ผู้สอนแต่มีประโยชน์กับผู้เรียนอีกด้วย

        สื่อกับผู้เรียน

1) เป็นสิ่งที่ช่วยให้การเรียนรู้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะจะช่วยให้ผู้เรียนเกิดความเข้าใจเนื้อหาบทเรียนที่ยุ่งยากซับซ้อนได้ง่ายขึ้นในระยะเวลาอันสั้น

2) สื่อจะช่วยกระตุ้นและสร้างความสนใจให้กับผู้เรียน ทำให้เกิดความสนุกสนานและไม่รู้สึกเบื่อหน่ายการเรียน

3) การใช้สื่อจะทำให้ผู้เรียนมีความเข้าใจตรงกัน และเกิดประสบการณ์ร่วมกันในวิชาที่เรียนนั้น

4) ช่วยให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมในกิจกรรมการเรียนการสอนมากขึ้น ทำให้เกิดมนุษยสัมพันธ์อันดีในระหว่างผู้เรียนด้วยกันเองและกับผู้สอนด้วย

5) ช่วยสร้างเสริมลักษณะที่ดีในการศึกษาค้นคว้าหาความรู้ ช่วยให้ผู้เรียนเกิดความคิดสร้างสรรค์
6) ช่วยแก้ปัญหาเรื่องของความแตกต่างระหว่างบุคคลโดยการจัดให้มีการใช้สื่อในการศึกษารายบุคคล

         สื่อกับผู้สอน

1) เป็นการช่วยให้บรรยากาศในการสอนน่าสนใจยิ่งขึ้น ทำให้ผู้สอนมีความสนุกสนานในการสอนมากกว่าวิธีการที่เคยใช้การบรรยายแต่เพียงอย่างเดียว และเป็นการสร้างความเชื่อมั่นในตัวเองให้เพิ่มขึ้นด้วย

2) สื่อช่วยแบ่งเบาภาระของผู้สอนด้านการเตรียมเนื้อหา เพราะบางครั้งอาจให้ผู้เรียนศึกษาเนื้อหาจากสื่อได้เอง

3) เป็นการกระตุ้นให้ผู้สอนตื่นตัวอยู่เสมอในการเตรียมและผลิตวัสดุใหม่ๆ เพื่อใช้เป็นสื่อการสอน ตลอดจนคิดค้นเทคนิควิธีการต่างๆ เพื่อให้การเรียนรู้น่าสนใจยิ่งขึ้น

       สุดท้ายนี้ข้าพเจ้ามีความเห็นว่า ถึงแม้ว่า เราจะมีสื่อการเรียนการสอนที่เป็นสื่อเทคโนโลยีแล้วนั้น เราต้องใข้ให้เกิดประโยชน์ ใช้ในทางที่ถูกที่ควร โดยเฉพาะข้าพเจ้าที่จะเป็นคุณครูในอนาคตแล้วนั้น ยังต้องใช้สื่อเทคโนโลยีให้เกิดประโยชน์สูงสุด และให้ความรู้ให้กับนักเรียนอย่างเต็มที่

แหล่งอ้างอิง : http://www.st.ac.th/av/media_kind.htm

                       http://www.learners.in.th/blogs/posts/253680

การกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550

      ปัจจุบันนี้ยังมีหลายพฤติกรรมที่คนทั่วไปยังไม่jให้ความสำคัญในข้อกฏหมายและยังคงมีให้พบเห็นบ่อยครั้งโดยไม่คำนึงถึงความผิด ถึงแม้ว่าจะมีความผิดด้วยพรบ กระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์  ดังเช่น

      มาตรา ๙ ผู้ใดทำให้เสียหาย ทำลาย แก้ไข เปลี่ยนแปลง หรือเพิ่มเติมไม่ว่าทั้งหมดหรือ

บางส่วน ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ของผู้อื่นโดยมิชอบ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกิน

หนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

      มาตรานี้เราจะพบได้บ่อยครั้งในชีวิตประจำวันในการทำงานที่ได้รับมอบหมายส่งอาจารย์ เราจะเห็นว่ามีการคัดลอกบทความมาหรือนำข้อความนั้นนั้นมาปรับปรุงเปลี่ยนแปลงให้เป็นข้อความของตัวเองโดยไม่ได้ใส่อ้างอิงผู้แต่ง ข้าพเจ้าเห็นว่า การที่จะนำข้อมูลใดๆก็ตามที่เป็นของคนอื่นนั้น ควรจะใส่อ้างอิงแหล่งที่มาให้ชัดเจน เนื่องจากข้อมูลนั้นๆ เป็นผลงานทางความคิดของผู้อื่น ไม่สามารถนำมาคัดลอก เปลี่ยนแปลง แก้ไขหรือเพิ่มเติมได้ หากมีความชอบหรือต้องการข้อมูลนั้น ก็ควรใส่แหล่งที่มาให้ถูกต้องและชัดเจนเพื่อความยุติธรรมทั้งตัวผู้แต่งเองและผู้ที่พบเห็นข้อมูลนั้นด้วย

      มาตรา ๑๔ ผู้ใดกระทำความผิดที่ระบุไว้ดังต่อไปนี้ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือ

ปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ในที่นี่ข้าพเจ้าขอยกตัวอย่างมา 1 ข้อ ได้แก่ 

     (๔) นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใด ๆ ที่มีลักษณะอันลามกและ

ข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้ 

      ในความเห็นของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าเห็นว่า การเข้าถึงข้อมูลที่มีลักษณะลามกและสามารถเข้าถึงได้โดยประชาชนทั่วไป จะพบได้บ่อยครั้งในระบบอินเตอร์เน็ต ข้าพเจ้าเห็นว่าไม่สมควรอย่างยิ่ง อินเตอร์เน็ตนั้นเป็นที่รู้กันว่าใครๆก็สามารถเข้าถึงได้โดยง่าย ไม่ว่าจะเป็นผู้ใหญ่หรือแม้กระทั่งเด็กตัวเล็กๆ ที่ยังไม่พ้นวุฒิภาวะ ทำให้เขาได้รับข่าวสารในเชิงลามกอนาจารย์โดยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ แล้วข้อมูลลามกสามารถพบได้ง่ายในโฆษณาผ่านหน้าเว็บต่างๆ 

      ข้าพเจ้าได้ยกข่าวที่เกี่ยวข้องมาเป็นตัวอย่าง

       ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม มีการวิพากษ์วิจารณ์ผ่านเครือข่ายสังคมออนไลน์จากกรณีมีการเผยแพร่ ภาพที่อ้างว่า เป็นแท็บเล็ตพีซี ที่รัฐบาลแจกให้กับเด็กนักเรียนชั้นประถมปีที่ 1 มาทดสอบการสกัดกั้นการเข้าถึงเว็บไซด์ลามกอนาจาร โดยผู้ทดสอบ (ขอสงวนนาม) ได้อ้างว่า นำเครื่องแท็บเล็ตสำหรับแจกจ่ายให้นักเรียนชั้นประถมปีที่ 1 ที่มารดานำกลับมาจากการอบรมมาทดสอบ โดยทดลองเข้าเว็บโป๊แห่งต่างๆ ซึ่งปรากฏว่า สามารถเข้าไปใช้บริการเว็บลามกอนาจารต่างๆ ได้ทุกเว็บที่ลองทดสอบ

อย่างไรก็ตาม ก่อนนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี รวมทั้ง น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รมว.กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) ระบุว่ามีการบล็อกการเข้าถึงเว็บไซด์ลักษณะดังกล่าวหมดแล้ว โดยเด็กนักเรียนที่ใช้แท็บเล็ตพีซีที่รัฐบาลแจกให้ จะสามารถเข้าได้เฉพาะเว็บไซด์ที่เกี่ยวกับการเรียนการสอนเท่านั้น 

อย่างไรก็ตามตลอดทั้งวันที่ 18 สิงหาคม มีการแชร์ภาพทดสอบแท็บเล็ตดังกล่าวต่อกันไปเป็นอย่างมาก โดยยังไม่มีการชี้แจงจากผู้เกี่ยวข้อง

     ดังนั้นข้าพเจ้าเห็นว่าควรที่จะเพิ่มมาตราการในการจัดการเกี่ยวกับการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ให้มากขึ้นและเข้มงวดขึ้น เพื่อป้องกันข้อมูลการเผยแพร่ข้อมูลคอมพิวเตอร์ทั้งการทำลาย เปลี่ยนแปลง แก้ไข เพิ่มเติม หรือทำให้ข้อมูลของผู้อื่นเสียหาย หรือแม้แต่การเผยแพร่ข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่มีลักษณะลามกอีกด้วย เพื่อเป็นประโยชน์แก่ผู้ใช้คอมพิวเตอร์ทุกคน รวมถึงเยาวชนที่เป็นอนาคตของประเทศอีกด้วย

แหล่งที่มาและแหล่งอ้างอิง  

http://news.sanook.com/1137172/

 พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550

แนะนำตัว :)

      

            สวัสดีคะ ชื่อ "ลูกปัด" นะคะ คุณแม่บอกว่า ตั้งชื่อนี่เพราะว่า มันเป็นเครื่องประดับที่น่ารักดี มีหลากหลายสีสันด้วย แต่ตอนนี้ก็มีฉายาอื่นๆอีก เช่น ลูกเป็ด หรือ ตวง ซึ่งมาจากชื่อจริงที่ชื่อ ตวงพร คะ

      ลูกปัดเป็นคนจังหวัดตรัง ภาคใต้นั้นเอง (บางคนก็สงสัยว่าอยู่ภาคไหน มีจังหวัดนี้ด้วยเหรอ) ลูกปัดชอบกินอาหารปิ้งย่างที่เป็นบุฟเฟ่ต์ ประมาณว่าตระเวณกินกันเลยทีเดียว เดือนละหนึ่งครั้ง ถือว่าเป็นการให้กำลังใจตัวเองก็แล้วกัน และก็ชอบกินของหวานอร่อยๆ กินแล้วรู้สึกว่าอารมณ์ดี มีความสุขดีคะ 

       ตอนนี้ลูกปัดศึกษาอยู่ชั้นปีที่ 3 เอกภาษาอังกฤษ(กศ.บ.) คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ส่วนตัวแล้วชอบภาษาอังกฤษคะ อยากพูดได้คล่องๆบ้าง Fighting!! ^^V

       ว่างๆลูกปัดชอบนั่งฟังเพลง ดูโทรทัศน์ ชอบเล่นเกมส์ออนไลน์ และก็อ่านหนังสือนิยายสนุกๆคะ เพลินดี หลายๆคนอาจคิดว่า ทำอะไรพวกนี้ไร้สาระ แต่สำหรับลูกปัดแล้ว ลูกปัดเชื่อว่า ความรู้มีอยู่ทุกที่ โดยเฉพาะเวลาเรามีความสุขที่จะทำมัน

       สุดท้ายก็ขอฝากบล๊อกนี้ด้วยนะคะ บล๊อกนี้เป็นบล๊อกแรกที่ลูกปัดหัดเขียน อาจจะไม่ดีเท่าไหร่นักชอบหรือไม่ชอบยังไงก็บอกได้เลยคะ บ๊ายบาย :)

ลูกปัด :)